ข้อมูลและการวิเคราะห์นี้มีประโยชน์มากครับ
ทำให้มีมุมมองและวิสัยทัศน์เพิ่มขึ้นครับและขออนุญาติเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะด้วยครับ
ขอขอบคุณ คุณเอนก เหล่าธรรมทัศน์
Credit :"ที่ตั้ง"ประเทศไทย
Fb เอนก
เหล่าธรรมทัศน์ AnekLaothamatas
ประเทศไทยนั้นมีอะไรดีบ้าง
?
คงมีดีหลายอย่างครับ แต่ที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในขณะนี้
มีทำเลที่ตั้งที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในอาเซียน ในเอเชีย และอาจจะในโลกเอาเสียด้วย
ประการแรก
เราเป็นประเทศรวยทะเล-รวยมหาสมุทร
ประเทศที่เล็กกว่าจีนยี่สิบเท่าแต่มีสองทะเล-สองมหาสมุทร คือ แปซิฟิก (อ่าวไทย) และ
อินเดีย (อันดามัน) ฝั่งทะเลของเรายาวกว่าของพม่าเสียอีก ยาวแพ้เวียดนามไม่มาก
มีจังหวัดที่อยู่ติดทะเลถึง 23 จังหวัด พูดง่าย ๆ ว่า ทุกๆ 4 จังหวัดของไทย
ติดทะเลหนึ่งจังหวัด น่าทึ่ง
ประเทศไทย
ขอขยายความ ความจริงเป็นประเทศกึ่งบก-กึ่งทะเลเลย ไม่ใช่เป็นประเทศทางบกที่มีเพียงชายหาดสวยงามเท่านั้น
ต้องคิดใหม่ว่าเรามีศักยภาพเป็นชาติอำนาจทางทะเลได้ด้วย หลายประเทศนั้นไม่มีทะเล
ต้องรบเพื่อเปิดทางออกทะเล จีนนั้นแม้จะมีมหาสมุทรแปซิฟิก
ก็ยังพยายามสุดความสามารถที่จะมุ่งลงใต้ไปลงทะเลที่มหาสมุทรอินเดียให้ได้
ใกล้กับภาคใต้ของเราคือ
"ช่องแคบมะลักกา" ที่ปัจจุบันนี้
เป็นช่องทางเดินเรือทะเลสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยปริมาณสินค้า น้ำมัน
และแก๊ซ
ที่ลำเลียงผ่านช่องแคบนี้มีเป็นสามเท่าของที่ผ่านทางคลองสุเอซและคลองปานามา
โลกทุกวันนี้มีช่องแคบมะลักกาเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญที่สุดแล้ว
หากดูแผนที่ให้ดีจะเห็นว่ามีจังหวัดหนึ่งของไทยที่ถือเป็น "ปากทางเข้า"
ช่องแคบนี้ทีเดียว จังหวัดสตูล ไงครับ
ช่องแคบมะลักกานั้นส่วนใหญ่อยู่ระหว่างคาบสมุทรมลายูและเกาะสุมาตรา
แต่สตูลนั้นถือเป็นส่วนบนสุดทางขวามือของช่องแคบได้ เราเป็น "เจ้าของ"
ช่องแคบมะลักกานิดหน่อย
ช่องแคบมะลักกานั้นมีความสำคัญต่อจีน
ญี่ปุ่น เกาหลี อาเซียน อินเดีย อ่าวเปอร์เซีย อาหรับ และยุโรปเป็นล้นพ้น
มีความจำเป็นที่จะต้องมีทางเลี่ยงหรือทางเบี่ยงที่จะลดความเสี่ยงจากความล่าช้าหรือติดขัดหรือปิดตัวลงของทางเดินเรือในช่องแคบด้วยสาเหตุนานาประการ
คาบสมุทรภาคใต้ของไทยมีศักยภาพสูงที่จะเป็นทางเบี่ยงหรือทางเลี่ยงนั้น
ไม่ว่าจะทำในรูปของคลองกระ (เชื่อมจังหวัดระนอง-ชุมพร) หรือคลองไทย
(เชื่อมตรัง-นครศรีธรรมราช) หรือทำเป็น "แลนด์บริดจ์"
(เชื่อมสองฝั่งสองมหาสมุทรด้วยรถไฟและทางหลวงขนาดใหญ่)
คู่ขนานกันไป
จะมีโครงการตัดทางหลวงหรือทำรถไฟความเร็วปานกลาง-สูง ที่จะเชื่อมอินเดีย จีน
และอาเซียนภาคพื้นทวีปเข้ากับมาเลเซีย สิงคโปร์ สุมาตรา ชวา
ซึ่งโดยทำเลของไทยเป็นเหตุ เส้นทางเหล่านั้นจะต้องผ่านหลายภาคของไทย ผ่านกรุงเทพฯ
และผ่านภาคใต้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไทยมีศักยภาพที่จะเป็นชาติอำนาจทางลอจิสติกส์
จะเป็นศูนย์กลางของเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมร้อยตลาดจีน อินเดีย
และตลาดอาเซียนเข้าด้วยกัน
จะชอบหรือไม่
จะเต็มใจหรือไม่ ไทยมี"ทำเลทอง" ที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียน เป็น
"สะพานทอง" เชื่อมยึดจีนและอินเดีย สองยักษ์ใหญ่ของเศรษฐกิจโลก เข้ากับเออีซี
ทำเลที่ดีของเราจะไม่เอื้อประโยชน์เฉพาะแต่กรุงเทพฯและภาคใต้เท่านั้นครับ
ภาคเหนือของไทยจะเชื่อมโยงกับนครและเมืองใหญ่ของจีนตอนใต้ (เชียงรุ้ง คุนหมิง
ฉงชิ่ง เฉิงตู) ลาว (หลวงพระบาง เวียงจันทน์)
และที่ขอย้ำเป็นพิเศษเพราะเรามักจะคิดไม่ถึง คือ พม่า (กรุงเนปิดอว์ พุกาม
มัณฑะเลย์ ตองอู อังวะ)
โปรดทราบนะครับว่า
"พม่าแท้ๆ" นั้นใกล้แม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่มาก
เนปิดอว์นั้นอยู่ใกล้เกือบชิดแม่ฮ่องสอน
ข้ามรัฐฉานจากแม่ฮ่องสอนไปนิดเดียวก็จะเจอกรุงเนปิดอว์เลย
แม้แต่ย่างกุ้งเมืองใหญ่ที่สุดของพม่าก็ใกล้แม่ฮ่องสอน ตาก และ เชียงใหม่มาก
ลาวและเวียดนามก็ใกล้เชียงรายและน่านมาก
จากเชียงรายบินไปหลวงพระบาง เวียงจันทน์ ใกล้มาก ใช้เวลาเท่าๆ
กับบินไปเชียงรุ้งและคุนหมิง และน่านนั้นยังพิเศษสุดที่อยู่ค่อนข้างใกล้ฮานอยด้วย
เวลาบินน่าจะไม่ถึงชั่วโมง
นานมากแล้วที่เราคิดว่าแม่ฮ่องสอน
ตาก และน่านเป็น "หลังเขา" เพราะเราเอากรุงเทพฯเป็นศูนย์กลาง
แต่ในยุคบูรพาภิวัตน์นั้นในขณะนี้ลาวพม่าล้วนโตเร็วกว่าไทยมาก ลาวโต มากกว่า 7
เปอร์เซนต์ต่อปีมาเป็นทศวรรษแล้ว พม่าเติบโตปีละ 12.5
เปอร์เซนต์มาในช่วงเวลาเดียวกัน ภาคเหนือของไทยมีศักยภาพและพร้อมที่จะเติบโตทางเศรษฐกิจสูงมากตามเพื่อนบ้านได้
โดยเฉพาะหากได้เชื่อมโยงทางคมนาคมเข้ากับจีนตอนใต้ พม่าทางตอนเหนือที่เป็นพม่าแท้ๆ
ลาว และเวียดนามทางตอนเหนือ
อีสานของไทยก็จะได้ประโยชน์จากบูรพาภิวัตน์แน่นอน
คนไทยมักไม่ทราบว่าภาคที่ใกล้กับประเทศจีนที่สุดโดยการบินนั้นคืออีสานนะครับ
ไม่ใช่ภาคเหนืออย่างที่เรามักคิด
เนื่องจากนครใหญ่ของจีนนั้นอยู่ทางด้านตะวันออกของประเทศเกือบทั้งหมด
จากจีนบินมาไทยจำต้องผ่านอีสานก่อนทั้งสิ้น จะเห็นว่าเกาะไหหลำนั้นใกล้อีสานมาก
ถ้าบินจากฮ่องกง มาเก๊า กว่างเจา เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง หากลงไทยที่หนองคาย บึงกาฬ
หรือ อุดร แทนที่จะลงกรุงเทพฯ จะลดเวลาบินลงถึงหนึ่งชั่วโมงได้
ในยุคบูรพาภิวัตน์
ด้วยที่ตั้งประเทศที่เป็นเยี่ยมอย่างนี้
ภาคอีสานและภาคเหนือจะต้องสร้างหรือขยายสนามบินนานาชาติให้ยิ่งใหญ่ไปเลย
อย่ามัวทำอะไรเล่น ๆ สร้างการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพที่อีสานด้วยเพื่อดึงนักท่องเที่ยวจากเวียดนามและจีนมาให้มากขึ้น
อีสานตอนใต้จะได้ประโยชน์มากจากกัมพูชาซึ่งเติบโตปีละ
8.5 เปอร์เซนต์ติดต่อกันมาสิบปีแล้ว
เสียมเรียบที่อยู่ใกล้กันคือเมืองท่องเที่ยวระดับโลก
พนมเปญคือเมืองใหญ่ที่สุดบนฝั่งแม่น้ำโขงทั้งหมด คนเจ็ดแปดล้านคน เติบโตสูงกว่า
8.5 เปอร์เซนต์ต่อปีแน่ๆ น่าจะโตไม่น้อยกว่าปีละ 15-20 เปอร์เซนต์
เท่าที่ประเมินเองอย่างคร่าว ๆ อีสานเป็นภาคที่ยึดโยงกับทั้งลาวและกัมพูชา
"โคราช" ของเราคือมหานครที่เชื่อมยึดและโยงใยกับสองประเทศนั้นไปพร้อมๆ
กันได้เลย
ภาคตะวันตกจะได้ประโยชน์จากการเชื่อมพม่าส่วนที่เป็นดินแดนมอญและกะเหรี่ยงเป็นหลักเข้ากับไทย
และจะเลยไปถึงอินเดียและบังกลาเทศในอนาคตไม่ไกล ส่วนภาคตะวันออกจะเชื่อมชลบุรี
ระยอง จันทบุรีและตราดเข้ากับกัมพูชาส่วนที่อยู่ใกล้ทะเลหรืออ่าวไทย
คงเริ่มสงสัยกันบ้างแล้วว่าทำไมประเทศไทยเราช่างต่อเชื่อมกับเพื่อนบ้านได้มากมายจัง
ก็ขอบอกว่าเรามีจังหวัดที่ติดชายแดนถึง 33 จังหวัด พูดง่ายๆ ทุกๆ 2-3
จังหวัดจะมีชายแดนติดต่างประเทศ 1 จังหวัด อลังการมากครับ
อำนาจหรือศักยภาพในการเชื่อมโยงของเรา connectivity ที่ชอบพูดถึงกันไงครับ
ประเทศไทยมีศักยภาพทั้งทางบกและทางทะเล
ขอย้ำอีกที เอาเข้าจริงแล้ว ไม่มีภาคไหนไกลทะเลเลย น่าอัศจรรย์
ถ้าทะเลนั้นเราไม่หมายถึงแต่อ่าวไทย เช่นตากนั้น แม่ฮ่องสอนนั้น
ไม่ไกลทะเลอันดามันเลย เพียงมีดินแดนพม่าแคบๆ มาคั่นเอาไว้ เท่านั้น
ฝนที่ตกที่สองจังหวัดนี้มาจากความชุ่มชื้นที่มาจากทะเล ที่ให้ทั้งภาคใต้ที่ติดอันดามันและให้ทั้งภาคเหนือด้านตะวันตกที่อยู่ไม่ห่างอันดามัน
ภาคเหนือด้านตะวันออกก็ไม่ห่างจากน้ำทะเล
หากหมายถึงทะเลจีนใต้หรืออ่าวตังเกี๋ยของเวียดนามเหนือ
ภาคอีสานเล่าก็ไม่ไกลจากเกาะไหหลำและจากทะเลเวียดนามและทะเลจีนเท่าไร
ในอนาคตสนามบินที่ดีและทางหลวงและทางรถไฟที่ดีจะเชื่อมภาคเหนือและภาคอีสานเข้ากับทะเลของเพื่อนบ้านได้ใกล้ชิดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ด้วยทำเลที่ดียิ่งของเรา
การคมนาคมทางบก ทะเล และอากาศ จะเชื่อมทุกส่วนของไทยไปสู่เพื่อนบ้าน
ไปโยงเชื่อมกับจีน อินเดีย อาเซียน ไปรับประโยชน์จากบูรพาภิวัตน์ได้มากยิ่งขึ้น
ขออย่างเดียวต้องทำให้เป็น
ทำให้รอบด้าน ตั้งใจทำ และจะต้องทำจากความคิดและยุทธศาสตร์ที่รอบคอบและแหลมคม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น