บทความเรื่อง อุตสาหกรรมเหล็กกล้าต้นน้ำ
บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยมีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องมีโรงงานถลุงเหล็กขนาดใหญ่
เท็คโนโลยีสูงปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม(ไม่ใช่แค่ขนาด 500000 ตัน ของTATA ที่มาลงทุน ไม่เช่นนั้นเจ๊งลูกเดียว)
อุตสาหกรรมเหล็กเป็น economy of scale เป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำ
เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ เพราะเพื่อลดต้นทุนในอุตสาหกรรมภาคต่างๆ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทุกวันนี้ไทยต้องนำเข้าเหล็กกล้าประมาณร้อยละ
60 ท่านลองมองดูสิ่งรอบตัวตั้งแต่ในครัว
ในบ้าน สากกระเบือยันเรือรบต้องการใช้เหล็กกล้าเป็นวัตถุดิบทั้งสิ้นแม้ภาคการเกษตรที่ต้องการใช้เหล็กจากฝานไถนา
รถดำข้าว ยันรถเก็บเกี่ยวข้าว ข้าวโพด อ้อยฯโรงงานผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนประกอบ
อู่ต่อเรือต่างๆอีกทั้งต้องสร้างโครงการเม็กกะโปรเจ็คเช่นรถไฟฟ้า รถไฟรางคู่
รถไฟคาวมเร็วสูง ทางด่วนพิเศษฯลฯมูลค่าโครงการหลายล้านๆบาท รัฐบาลจำเป็นต้องใช้
ม.44 ปรามพวกมาเฟีย ต่อต้านหัวชนฝาคลั่งสิ่งแวดล้อมจนเกินเหตุแม้กระทั่ง
การตั้งมหาวิทยาลัยที่ให้ความรู้ความเจริญที่คลองชายธง บ่อนอก ประจวบฯ
เพื่อประโยชน์ของคนในจังหวัดและประเทศ และลูกหลานของพวกคุณเอง
คนในประจวบฯที่ไม่เห็นด้วยกับพวกคุณก็มีมากมาย
หากเกิดการปะทะกันจะทำให้เกิดการนองเลือดโดยเปล่าประโยชน์ฯทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน(sustainable
economy ไม่ใช่มัวแต่ take
off แบบทุกวันนี้) BOI ควรส่งเสริมนิคมอตสาหกรมเหล็กกล้าแบบสุดลิ่มทิ่มประตู
เท่าไรเท่ากัน
ดีกว่าเอาเงินไปใช้อีหลุ่ยฉุ่ยแฉกประชานิยมวัดครึ่งหนึ่งกรรมการครึ่งหนึ่งเช่นโครงการจำนำข้าว
800000 ล้านบาทเหมือนเอาเงินไปทิ้งแม่น้ำทั่งยังต้องใช้หนีภาระเงินกู้เป็นจำนวนมหาศาลในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น