บทความเรื่องประโยชน์ของงานอดิเรกในการสะสมธนบัตรและเหรียญชนิดต่าง
ๆว่าทำไม่เป็นการออมทรัพย์ที่ดีกว่าฝากธนาคารหรือเล่นหุ้นหากท่านสะสมเหรียญกษาปณ์หรือธนบัตรที่รัฐบาลยังไม่ประกาศยกเลิกใช้เพราะจะมีสภาพคล่องเท่ากับเงินสด
Update 8 (31 มกราคม 2560)
ประโยชน์ของงานอดิเรกนี้คือ
ประการที่หนึ่งการออมทรัพย์ชนิดหนึ่งที่ดีกว่าการฝากธนาคารซึ่งได้ดอกเบี้ยน้อย
และยังต้องเสียค่าธรรมเนียมต่าง รวมกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน
หากท่านฝากประจำยังต้องเสียภาษีร้อยละ 1.5 ด้วย ผมขอยกตัวอย่างเหรียญ 50.00
สตางค์เมื่อปี พ.ศ.2500 ท่านสามารถซื้อไอสกรีม กะทิ ใส่ในขนมปังรวมข้าวเหนียว
ราดด้วยถั่วคั่ว ได้หนึ่งชิ้น หรือโดยสารรถเมล์ได้หนึ่งเที่ยว
และเงินห้าบาทในปีพ.ศ.2512
ท่านสามารถซื้อก๋วยเตี๋ยวราดหน้าหรือผัดซีอิ๊วได้หนึ่งชามและราคารถยนต์ในสมัยนั้นมีราคาประมาณเก้าหมื่นกว่าบาทไม่ถึงแสน
ในปีพ.ศ. 2520 ท่านสามารถซื้อข้าวกับหนึ่งอย่างได้ 1 จานราคา 10 บาท หากกับ 2
อย่าง ราคา15 บาทเท่านั้น จะเห็นว่าค่าครองชีพจะสูงขึ้นตลอดเวลาและไม่ลดลง
ซึ่งเป็นธรรมชาติของมันดังนั้นท่านควรเอาเงินสดฝากธนาคารไว้ส่วนหนึ่งเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
ส่วนที่เหลือเก็บออมไว้เป็นเงินสดทุกวัน ๆ หรือ2-7วัน ครั้งละ 5 บาท 10 บาท 20 บาท
50 บาท 100 บาท 500 บาท 1000บาท ใส่กล่องหรือขวดไว้แยกกันตามชนิดต่าง ๆ ตามกำลังทรัพย์ของท่าน
ดีกว่าไปกินเหล้าสูบบุหรี่ ทำลายสุขภาพของท่านทั้งยังต้องเสียค่ารักษาพยาบาลจากผลของมันในอนาคต
ประการที่สองดีกว่าท่านเอาเงินไปเล่นหุ้นซึ่งเป็นการเก็งกำไรมีพวกได้และพวกเสีย
เปรียบสเมื่อนเป็นการพนันชนิดหนึ่งมีน้อยมากที่จะได้กำไรนอกจากจะรู้ข่าววงใน
หรือซื้อในจังหวะที่ดีซึ่งมีโอกาสน้อยคนมากที่จะมีโอกาสเช่นนั้น
ส่วนใหญ่จะเป็นแมงเม่าเสียมากกว่า ตลาดมันเป็น zero
sum games คือมีพวกได้และพวกเสีย
ประการที่สาม
หากเกิดสงครามโลก หรือสงครามกลางเมือง หรือเศรษฐกิจล่มสลาย
ซึ่งไม่มีใครทำนายอนาคตได้ว่าจะเกิดหรือไม่เกิด เพราะมันไม่เกิดสงครามครั้งใหญ่มา
71 ปีแล้ว มีแต่สงครามในระดับภูมิภาค เช่นสงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม
สงครามตะวันออกออกกลาง ติดต่อกันมาเรื่อยซึ่งบัดนี้ก็ยังไม่สิ้นสุด หากสงครามครั้งใหญ่เกิดขึ้นธนบัตรที่ใช้อยู่จะเป็นเศษกระดาษโดยทันที
แต่เหรียญที่เป็นโลหะ ต่าง ๆโดยเฉพาะที่เป็นโลหะเงินและทอง ส่วนโลหะพวกทองแดง
ทองเหลืองจะแพงขึ้นเพราะความต้องการไปทำกระสุนปืนชนิดต่าง ๆ จะทำให้ท่านและลูกหลานมีชีวิตอยู่รอดได้
ประการที่สี่เมื่อมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้น
เช่น อุบัติเหตุต่าง ๆ เจ็บไข้ได้ป่วยท่านยังสามารถเอาธนบัตรหรือเหรียญซึ่งยังคงใช้หมุนเวียนในปัจจุบันที่ท่านสะสมไว้ที่รัฐบาลยังไม่ได้ประกาศยกเลิกนำออกมาใช้ได้
ประการที่
ห้า เก็บไว้ให้ ลูกหลาน เหลน เพื่อเป็นทุนการศึกษา ในอนาคต ซึ่งค่าเรียนบางวิชา
เช่นแพทย์และวิศวกรรมจะแพงมาก เป็นล้านกว่าบาทจนจบการศึกษา
หากไม่มีเงินเอาไปขายเป็นทุนได้และเขาจะได้คิดถึงปู่ ย่า ตา ยาย เมื่อตายไปแล้ว
ประการที่เจ็ด
หากท่านสะสมธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ที่ใช้ในปัจจุบันโดยการออมเก็บไว้ไม่นำไปจะเป็นการดีกว่าใช้ซื้อสินค้าทีไม่มีประโยชน์และทำลายสุขภาพ
เช่นขนมเครื่องดื่มที่หวานใส่น้ำตาลมากเมื่อกินเป็นประจำจะทำให้ท่านเป็นโรคเบาหวาน ที่สีเกลือมากกินเป็นประจำจะทำให้ท่านเป็นโรคไต
สองโรคนี้เป็นโรคที่อันตรายรักษาให้หายขาดไม่ได้ เสียค่าใช้จ่ายมาก ทั้งยังคาดได้ว่าในเวลา1-2ปีเมื่อถึงวาระที่จะต้องเปลี่ยนแบธนบัตรเหรียญกษาปณ์ใหม่ตามประเพณีแล้ว
จะได้ราคาสูงกว่าปัจจุบัน 1-2
เท่าเมื่อถึงวาระที่รัฐบาลจำเป็นเปลี่ยนเป็นเหรียญกษาปณ์และธนบัตรใหม่อย่างแน่นอนตามประเพณีที่ประติบัติกันมาแล้วค่าของมันจะสูงขึ้นในตลาดนักสะสม
คำเตือน
ควรสะสมแบบพอเพียงค่อยเป็นค่อยไป อย่าสะสมจนต้องกินมาม่า
หากท่านจะดูวีดีโอทั้งชุดเปรียบสเมือนมีแนวทางหรือคู่มือในการสระสมธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ไทยซึ่งตอนนี้มีถึงประมาณ
248 กว่าวาระแล้วและจะทำเพิ่มขึ้นทุกวันจนครบทุกวาระ ท่านควรดูวีดีโอในwww.youtube.com และค้นหาโดยพิมพ์ข้อความว่า คนรักงานอดิเรกการสะสมธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ไทยหรือใช้ชื่อRangsant Bandhukul ค้นหาในช่องบนของวีดีโอ youtube และGoogle Plus หรือค้นหาในGoogle ก็ได้ครับหรือและท่านสามารดูทั้งชุดที่ BloggerของGoogleที่ชื่อ siambanknotecoin.blogspot.comเพื่อเป็นแนวทางหรือคู่มือในการสะสม ได้ด้วยครับ แล้วกรุณาอย่าลืมคลิ๊กติดตาม หรือ Subscribe ฟรีไม่ต้องเสียเงินเป็นค่าสมาชิก จักขอบคุณยิ่งครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น