วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

บทความเรื่องรัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับอุตสาหกรรมและการเกษตรขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

สืบเนื่องมาจาก ปัจจุบันนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการเติบโตในอัตราสูงมาก รวมทั้งการย่างเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ ขาดแคลนแรงงานไร้ฝีมือและมีฝีมือ ค่าแรงงานสูงไม่เหมาะทีจะทำการผลิตสินค้าและบริการประเภททึ่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก ขีดความสามารถในการแข่งขันต่ำ ดังนั้นประเทศไทยจะต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมสูงขึ้นอีกระดับหนึ่งเป็นการผลิตครบวงจรตั้งแต่ต้นนำถึงปลายน้ำโดยใช้เทคโนโลยี่และนวัตกรรมใหม่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและลดต้นทุนการผลิต เพิ่มคุณค่าของสินค้าและบริการก้าวสู่ยุคการผลิตระดับ 4.0(โรงงานหรือแปลงเกษตรที่ใช้แรงงานน้อยที่สุดใช้หุ่นต์ยนต์และเครื่องจักรอัตรโนมัติที่คุมด้วยคอมพิวเตอร์มากที่สุด)ตามนโยบายของรัฐบาล จึงมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอาไหล่รถยนต์ใช้น้ำมันเป็นชิ้นส่วนสำหรับการผลิตรถไฟฟ้าในอนาคต 5-20 ปีข้างหน้า  โดยมีการสนับสนุนการลงทุนต้นน้ำใน โรงถลุงเหล็กกล้า(ไทยใช้ประมาณปีละ150ล้านตัน) อลูมิเนียม ทองแดง ลิเทียม แผ่นเวเฟอร์จากหินควอทฯลฯ โลจิสติกส์ คลังสินค้ารวม บูรณาการระบบสินค้าผ่านแดน ระบบการเงินข้ามแดน ทั้งเพิ่มและขยายเส้นทางถนน ทางด่วนพิเศษทางรถไฟรางคู่ ท่าอากาศยานนานาชาติ ท่าเรือน้ำลึกเพื่อเชื่อมระเบียงเศรษฐกิจเหนือใต้ ตะวันตกตะวันออก และเส้นทางถนนผ่านพม่าตอนเหนือมุ่งสู่อินเดียที่มีตลาดใหญ่มหาศาลรองจากจีน โครงการขุดคลองไทย เท็คโนโลยีการผลิตเครื่องยนต์และชิ้นส่วนได้เองทุกชนิด ชิ้้นส่วนอากาศยาน หุ่นยนต์ใช้ในอุตสาหกรรม หุ่นยนต์ใช้ในการบริการทางแพทย์และผู้สูงอายุ เครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์   แบตเตอรี่ลิเที่ยม ปั้มชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนอิเล็คโทรนิคสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยี่ใหม่สำหรับ รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้า หัวปั้มชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งสถานีบริการ อุตสาหกรรมต่อเรือ มอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า แผงวงจรเมนบอร์ด ฮารด์ดิสไดรพ์แบบใหม่ แผงพลังงานแสงอาทิตย์ ฯลฯ และโรงผลิตไฟฟ้าถ่านหินแบบสอาดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อลดต้นทุนพลังงานไฟฟ้า  ส่งเสริมโลจีสติกส์เช่น การสร้างทางด่วนพิเศษ รถไฟฟ้ารางคู่  ท่าเรือขนาดใหญ่ฝั่งทะเลอันดามันมุ่งขยายสินค้าสู่อินเดียซึ่งมีตลาดใหญ่มหาศาล และส่งเสริมนิคมหรือเขตเศรษฐกิจพิเศษสำหรับ R&Dการวิจัยและนวตกรรมเพื่อการพานิชย์ ส่งเสริมการศึกษาและอบรมทรัพยากรมนุษย์ อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร เขื่อนเพื่อผลิตไฟฟ้าและการเกษตร อ่างเก็บน้ำบนดินและระบบชลประทาน อ่างเก็บน้ำใต้ดินเพื่อผลิตน้ำเเพื่อการเกษตรและอุตสาหกรรม    การเกษตรเท็คโนโลยี่และนวตกรรมใหม่และเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษ โรงเรียนเกษตรกรการปฏิบัติการปลูกการตลาดการแปรรูปให้สดวกพร้อมกินถนอมอาหารได้ยาวนาน การทำเอกสารให้มีสตอรี่ รวมทั้งสมาคมเกษตรกรตามอำเภอและตำบลต่างๆเพื่อทดแทนเกษตรกรสูงอายุที่ทำการเกษตรต่อไปไม่ไหวแล้ว การจัดการบริหารจัดการรวมกลุ่มพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ เทคโนโลยี่ในการเก็บถนอมอาหารแปรรูป ขนม อาหารขบเคี้ยว และปรุงรสต่างๆให้เก็บได้นาน เขตเศรษฐกิจพิเศษตามชายแดนจำนวนหลายแห่ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันหนีจากประเทศเวียตนามและอินโดนีเซีย มาเลเซีย และส่งเสริมการใช้รถพลังงานไฟฟ้าส่วนบุคคลและขนส่งมวลชน รวมทั้งรัฐกำลังเตรียมการส่งเสริมให้มีโรงงานประกอบขบวนรถไฟฟ้าและโรงงานผลิตชิ้นส่วนขบวนโบกี้รถไฟฟ้า โรงงานผลิตรางรถไฟ ทั้งหมดทั้งปวงนี้จะต้องใช้เหล็กกล้า อลูมินัมอัลลอยคอมโปสิต วัตถุดิบต่างๆในการผลิตและก่อสร้างๆ แหล่งน้ำดิบเพื่อการเกษตร อุตสาหกรรม พานิชยกรรมและไฟฟ้าจำนวนมหาศาล ซึ่งจำเป็นจะต้อง เร่งส่งเสริมโรงงานผลิตไฟฟ้าทั้งถ่านหิน(ต้นทุนถูกที่สุดรองจากเขื่อนผลิตไฟฟ้า) โซล่าเซล พลังงานลม ชีวมาล และโรงไฟฟ้ากำจัดขยะ เขื่อนผลิตพลังงานไฟฟ้ารวมทั้งระบบสายส่งพาวเวอร์กริดอัจฉริยะทั้งระบบ ฯลฯเพื่อ ให้มีไฟฟ้าเพียงพอแก่ความต้องการในอนาคตไม่เกิดไฟตกและดับ เสียตั้งแต่บัดนี้ ทั้งนี้รัฐบาลควรใช้ม.44เป็นตัวเร่งและกำจัดปัญหาจาก นักรับจ้างต่อต้านหัวชนฝา พวก NGO  ผู้เสียผลประโยชน์ส่วนตัวและเครือข่ายโลกสวย(ที่อุปโลกตัวเองขึ้นมาโดยไม่มีที่มาที่ไป)คัดค้านทำให้ส่วนรวมเสียผลประโยขน์ของชาติมหาศาล (หากคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มดังกล่าวเพราะทำให้ชาติเสียโอกาสก็สามารถตั้งเครื่อข่ายแสดงความคิดเห็นสนับสนุนโครงการเหล่านี้ได้เช่นเดียวกัน)  ทั้งยังต้องอาศัยซื้อไฟฟ้าจากลาวจำนวนมากมหาศาลทั้งต้องซื้อจากไฟจากกัมพูชาอีกในอนาคตและซื้อแก๊สจากพม่าและมาเลเซียจำนวนมากมาผลิตไฟฟ้าทำให้เกิดความไม่มั่นคงในระบบพลังงานไฟฟ้าของประเทศ หากแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้นไม่ได้ประเทศไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุที่แก่และยากจนประชาชนจะลำบากแสนสาหัสยิ่งกว่าแก่แล้วมีจะกิน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น